ความแตกต่างของ Marker กับ QR Code Kee Kee 5 July 2021 บทความ ปัญหาของ Marker โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว AR มักจะมาคู่กับ Marker (จุดเครื่องหมายระบุตำแหน่ง) เสมอ แต่หลาย ๆ อย่างทำให้เกิดปัญหาจากงานออกแบบ Marker เองเช่น รายละเอียดที่น้อย หรือ ซ้ำซ้อนกันเกินไป ทำให้ระบบ AR ไม่สามารถทำงานได้ดี หรือทำงานได้ แต่จะเกิดอาการสั่น มีวิธีการแก้ไข 2 วิธีคือ ออกแบบภาพใหม่ การเพิ่มรายละเอียดถ้าทำได้จะแก้ปัญหาเรื่อง Marker ที่มีรายละเอียดน้อยได้ดีมาก แต่ถ้าบางแบรนด์สินค้า ต้องการความเรียบหรู จะไม่สามารถทำอะไรเยอะ ๆ แบบนี้ได้ Recall จึงพัฒนาการทางออกที่ดี ในการใช้งานของลูกค้า รายละเอียดภาพเยอะขึ้น ภาพเก่าที่รายละเอียดน้อย แก้ไขใหม่ ลองทดสอบเปรียบเทียบการใช้งานของ Marker กับ QR ตัวอย่าง QR Code แบบใหม่ สามารถทดสอบได้ในแอป Recall ในเมนู QR Code ตัวอย่างการใช้ QR Code ตัวอย่าง Marker แบบเดิม สามารถสแกน Marker แบบนี้ได้ในหน้ากล้องของ Recall ได้เลย ตัวอย่างการสแกนภาพ Marker ทั้ง 2 ตัวนี้จะเป็น Content เดียวกันแต่วิธีการใช้งานต่างกัน ลูกค้ายังจำเป็นที่จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Recall อยู่ การใช้งานของ QR Code ลูกค้าที่ยังไม่มีแอป Recall สแกน QR Code จากแอปทั่วไป เช่น Line ไปหน้าดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Recall ก่อน ลูกค้าที่มีแอป Recall สแกน QR Code จากแอปทั่วไป หรือ จากใน Recall เอง สแกนในแอป Recall เมื่อเจอ QR Code ของ Recallจะทำการเล่น Content นั้นทันที สแกนจากแอป QR ทั่วไประบบจะให้ไปหน้าเว็บไซต์ แล้วเปิดแอป Recall และเล่น Content นั้นเลย คุณลักษณะพิเศษของ QR Code เมื่อเราใช้ QR Code แทนการใช้ Marker แล้ว ข้อดีคือตัดเรื่องของงานออกแบบทิ้งไปเพราะเราจะเหลือ QR Code แบบ ขาว-ดำ แทนขนาดที่เล็กกว่าในการใช้งาน (เล็กที่สุดได้ 4×4 เซนติเมตร)สแกนได้ง่ายในที่แสงน้อยมาร์คเกอร์ลูกค้าที่ไม่มีแอป Recall จะได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยไม่ต้องค้นหาใน App Store หรือ Play Storeออกแบบได้ง่าย ลูกค้าเข้าใจว่าว่าต้องสแกน QR ต่างจาก Marker ที่ไม่อธิบายลูกค้าจะไม่รู้ไม่มีการยึดโมเดลหรือวีดีโอกับแผ่น Marker อีกต่อไป Content จะอยู่บนหน้าจอเสมอที่ใช้งาน ทำให้ลูกค้าสามารถหัดไปทางไหนก็ได้ไม่ต้องจ่อค้างที่ภาพ Marker Post navigation Previous Previous post: เรียนทิพย์ โดยใช้ ARNext Next post: การใช้ AR กับกิจกรรม RC (Route Check)